หากให้พูดถึงค่ายมวยที่ชุมนุมนักมวยระดับหัวแถวในยุคนี้ไม่มีใครเดินเกินหน้าค่าย “พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ของ “เสี่ยแขก” สมชาย เทศรุ่งเรือง หลายคนกลายเป็นนักมวยตัวท็อปในศึก ONE Championship ไม่ว่าจะเป็น ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, เมืองไทย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม รวมไปถึง ทองพูน พีเค.แสนชัย และอีกคนที่ฟอร์มกลับมาขาขึ้นอีกคนก็คือ “พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม”
ประวัติ พระจันทร์ฉาย
ชื่อ: นนทสิทธิ์ เพ็ชรน้ำทอง
ชื่อเล่น: นนท์
วันเกิด: 18 ตุลาคม 2538 (29 ปี)
พิกัดน้ำหนัก: 123.9 ป. / 56.2 กก
ส่วนสูง: 5’4″ ฟุต / 163 ซม
สังกัด: พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม
เกี่ยวกับ พระจันทร์ฉายพีเคแสนชัยมวยไทยยิม
พระจันทร์ฉายเป็นคนกรุงเทพฯ นี่เอง พื้นเพเป็นคนบางปะกอก ราษฏร์บูรณะ ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย แต่ตัวเองสนใจกีฬาชกมวยมาตั้งแต่เด็กแล้ว สาเหตุก็เพราะลุงของเขาเป็นอดีตนักมวยเก่าชื่อ “นกน้อย ศิษย์ป๋าแสน” กับ “สำรวย ศักดิ์หิรัญชัย” เปิดค่ายมวยชื่อ “ศักดิ์หิรัญชัย” ขึ้นมา ทำให้ได้รับอิทธิพลและซึมซัมบรรยากาศของกีฬามวยไทยมาตลอดเวลา
เพราะใช้ชีวิตคลุกคลีกับมวยมาตั้งแต่เด็ก ก็เลยฝึกหัดมวยอย่างจริงจังมาโดยตลอด และได้โอกาสขึ้นชกตั้งแต่ตอนอายุได้ 5 ขวบเท่านั้น โดยใช้ชื่อในการชกว่า “นนทสิทธิ์ ศิษย์ผู้ใหญ่จวบ” และได้ชกที่เวทีมวยรังสิต ซึ่งสามารถประเดิมการชกด้วยชัยชนะ ได้ค่าตัวมา 100 บาท
เขาใช้ชื่อในการชกว่านนทสิทธิ์อยู่นานหลายปีทีเดียว พออายุ 9 ขวบ และมีความฝันอยากเป็นนักมวยอาชีพจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “พระจันทร์ฉาย” และหลังจากนั้นอีก 3 ปีก็เปลี่ยนไปชื่อค่ายว่า ป.เพ็ชรน้ำทอง ตามนามสกุลของตัวเอง
ด้วยการถูกฝึกมาอย่างดี มีเบสิคแน่น หัวใจเต็มร้อย เขาจึงกลายเป็นนักมวยดาวรุ่งที่ถูกจับตามองอย่างมาก เริ่มต้นสร้างชื่อในศึกอัศวินดำของ พล.ต.ต.เสวก ปิ่นสินชัย หลังจากนั้นก็ขยับไปชกในศึกมวยทางช่องยูบีซี (UBC) โดยชกในศึกดาวรุ่งเพชรสุภาพรรณ
แต่รายการที่จุดประกายสู่เส้นทางยอดมวยของเขานั้น น่าจะอยู่ที่การย้ายมาชกในศึกวันทรงชัยของ “ทรงชัย รัตนสุบรรณ” กระทั่งคว้าแชมป์ของเวทีราชดำเนิน รุ่น 105 ปอนด์ 2 สมัย
กระทั่งในปี 2556 เขาโชว์ฟอร์มได้ดีในการเจอกับมวยแกร่งอย่าง วันฉลอง พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ที่เวทีมวยลุมพินี ปรากฏว่า “เสี่ยแขก” ประทับใจมากจึงชักชวนให้ย้ายมาร่วมค่ายด้วย จุดกำเนิดของ “พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” จึงได้เริ่มต้นขึ้น
พอย้ายมาอยู่ค่ายใหญ่ น้ำเลี้ยงดี เทรนเนอร์เก่ง การชกของเขาก็ดีวันดีคืน กวาดแชมป์อีกหลายรายการเลย ไล่มาตั้งแต่ แชมป์ราชดำเนิน รุ่น 112 ปอนด์, แชมป์ S-1 รุ่น 115 ปอนด์, แชมป์ลุมพินี รุ่น 118 ปอนด์ และแชมป์ลุมพินี รุ่น 122 ปอนด์
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังได้มีโอกาสชกในสไตล์มวยสากลสมัครเล่น หวังจะได้ลุ้นเป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 ประเทศญี่ปุ่น แต่หลังจากเก็บตัวร่วม 2 ปีก็เห็นว่าไม่ใช่ทางของตัวเองจึงถอนตัวออกมา แต่ก็ผันตัวเองไปชกมวยสากลอาชีพ และไฟต์แรกก็สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเอาชนะคะแนน “อานนท์ อยู่ปราง” คว้าแชมป์ WBA Asia South รุ่นเฟเธอร์เวต 126 ปอนด์มาครอง
แต่โอกาสครั้งสำคัญในชีวิตของ “พระจันทร์ฉาย” อย่างแท้จริงก็คือการเซ็นสัญญาชกในศึก ONE และประเดิมชกในศึก ONE:BATTLEGROUND เมื่อ 30 ก.ค. 2021 และเอาชนะคะแนน สามเอ ไก่ย่างห้าดาว ไปได้ในการชก 5 ยก
หากแต่ในไฟต์ต่อมา เขาไปเสียท่าพ่ายน็อก โจเซฟ ลาซิรี นักชกเชิงดุเชื้อสายอิตาลี/โมร็อกโก ในยกที่ 3 ในศึก ONE 157 เมื่อ 20 พ.ค.2022
ถึงแม้จะพ่ายแพ้ไป แต่เขายังไม่เสียกำลังใจ เพราะเป้าหมายก็คือการเป็นแชมป์โลก ONE ให้ได้ หลังจากกลับไปฝึกซ้อมอย่างหนัก แก้ไขจุดอ่อนของตัวเอง เมื่อฟิตเปรี๊ยะก็กลับคืนวงการอีกครั้ง และเอาชนะคะแนน คมเพชร แฟร์เท็กซ์ ในศึก ONE Lumpinee 1 เมื่อ 20 ม.ค. 2023
ไม่เพียงเท่านั้นในไฟต์ต่อมา ในศึก ONE Lumpinee 22 เมื่อ 23 มิ.ย. 2023 พระจันทร์ฉายเจอกับคู่ปรับเก่าอย่าง สามเอ ไก่ย่างห้าดาว และคราวนี้สามารถย้ำแค้นได้อีกครั้งด้วยการเอาชนะน็อก “สามเอ” ในยกที่ 2
ลีลาดุดัน เดินหน้าแบบไม่กลัวเจ็บตัว ทำให้เขาเป็นนักมวยที่เป็นขวัญใจคนดูในศึก ONE และมีกองเชียร์ตามเชียร์ทุกครั้งที่ขึ้นเวที และในศึก ONE ลุมพินี 34 ก็ไม่ทำให้ต้องผิดหวังด้วยการเอาชนะคะแนน อัคราม ฮามิดี นักชกชาวแอลจีเรีย
กระทั่งไฟต์ที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง พระจันทร์ฉายได้โอกาสเจอกับโจเซฟ ลาซิรี คู่ปรับเก่าอีกครั้งในศึก ONE Lumpinee 46 เมื่อ 22 ธ.ค. 2023 คราวนี้เขามาดีกว่าที่คาดไว้ รุกไล่ต่อยจนโจเซฟ ลาซิรี ตั้งตัวไม่ติด สุดท้ายแล้วเขาเอาชนะน็อกไปได้ในยกที่ 1 สามารถล้างแค้นได้สำเร็จ
เมื่อเอาชนะด้วยฟอร์มสดเช่นนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เขาจะได้ลุ้นตำแหน่งแชมป์โลกอย่างที่วางไว้ โดยต้องการเขย่าบัลลังก์แชมป์โลกในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นสตอว์เวต จาก โจนาธาน ดิ เบลลา เจ้าของตำแหน่งคนปัจจุบันชาวอิตาลี–แคนาดา
“พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” เป็นอีกหนึ่งในมวยไทยที่ชกได้น่าตื่นตา อาวุธครบเครื่อง และน่าไปต่อได้ยาว ๆ ใน ONE Championship อีกคน
ช่องทางการติดตาม
Facebook: jikko.arena
Instagram: prajanchai_pk
TikTok: @pajanchay_19
อ้างอิง: ONE prajanchai